ปัจจุบันการนำกรดหรือสารจับตัวยางมาใช้ทำ "ยางก้อนถ้วย" เรียกได้ว่าเป็นเรื่องปกติที่ชาวสวนยางนิยมทำกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะ “กรดฟอร์มิก” ซึ่งเป็นกรดอ่อน สลายตัวได้ง่าย ไม่มีสารตกค้าง ที่สำคัญไม่ทำร้ายสุขภาพและสิ่งแวดล้อม รวมถึงคุณภาพยางก้อนถ้วยที่ได้ยังถูกจัดให้อยู่ในเกณฑ์ดีและมีมาตรฐาน

โดยข้อมูลเหล่านี้ทางสถาบันวิจัยยางได้มีการแนะนำให้ชาวสวนหันมาใช้ “กรดฟอร์มิก” แทนการนำ “กรดซัลฟิวริก” มาใช้เพื่อจับตัวยาง เนื่องจากมีความปลอดภัยมากกว่า ไม่เป็นอันตราย และยังช่วยให้ยางจับตัวได้ดียิ่งขึ้น

หากถามถึง “ความอันตราย” ของการใช้ “กรดซัลฟิวริก” ขอตอบเลยว่า มีมากมายหลายประการ สามารถส่งผลกระทบเป็นวงกว้างทั้งต่อยาง และสิ่งแวดล้อมได้มากกว่าที่ทุกคนคิด เพราะนอกจากสถาบันวิจัยยางจะไม่ยอมรับและไม่แนะนำให้ใช้แล้ว ทางสถาบันเองยังได้ออกมาระบุถึงข้อเสียที่น่ากลัว เมื่อมีการนำ “กรดซัลฟิวริก” มาใช้จับตัวยางก้อนถ้วยอีกด้วย วันนี้ “ศรีตรังเพื่อนชาวสวน” จะพาเพื่อนๆมาดูความแตกต่างระหว่างการใช้ “กรดฟอร์มิก” ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ “กรดซัลฟิวริก” ซึ่งเป็นกรดพิษอันตรายทั้งต่อคุณภาพยาง สิ่งมีชีวิต ทั้งยังเปรียบเสมือนฝันร้ายของผู้ค้ายาง หรือโรงงานยางอย่างปฏิเสธไม่ได้ เนื่องจากยางที่ได้มีคุณภาพต่ำและไม่ผ่านเกณฑ์การรับซื้อ

1. กรดฟอร์มิก

• ใช้เวลาจับตัวไม่นาน คุณภาพยางสมบูรณ์ สีไม่คล้ำ เนื้อยางแน่น ยืดหยุ่นดี
• ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของเพื่อนๆ และสิ่งมีชีวิต
• ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบอุตสาหกรรม ไม่ทำให้เครื่องจักรผุกร่อนหรือเสียหาย
• เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

2. กรดซัลฟิวริก

• ใช้เวลาจับตัวช้า มีสารตกค้างในยาง ส่งผลให้ยางเสื่อมสภาพได้ง่าย อีกทั้งยังทำให้ยางก้อนถ้วยที่ได้ รวมถึงหน้ายางมีสีคล้ำ ไม่ยืดหยุ่น
• เป็นอันตรายต่อสุขภาพ หากสูดดมไปเรื่อยๆ จะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจเกิดการระคายเคือง และส่งผลระยะยาวต่อสุขภาพของผู้ใช้งาน
• ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบจัดการน้ำเสียของโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้น้ำเน่าเสียเนื่องจากก่อให้เกิดการสะสมของก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) หรือก๊าซไข่เน่าที่เราคุ้นหูกันดี ซึ่งเป็นก๊าซพิษ มีความอันตรายสูง หากลอยขึ้นสู่อากาศและรวมตัวกลายเป็นฝน จะทำให้เกิดฝนกรดที่สามารถทำลายสิ่งแวดล้อมได้

หากไม่อยากให้ยางที่ได้ต้องเสียสภาพเพียงเพราะเลือกใช้ “กรดซัลฟิวริก” ที่มีราคาถูก แต่ส่งผลอันตรายมากมายทั้งต่อระบบนิเวศ รวมไปถึงสร้างความเสียหายต่อร่างกาย และระบบอุตสาหกรรม ทำให้เครื่องจักรต้องเสื่อมสภาพจากกรดเหล่านี้ “ศรีตรังเพื่อนชาวสวน” จึงอยากให้พี่น้องชาวสวนทุกคนรีบหยุดใช้! “กรดซัลฟิวริก” ก่อนที่จะสายเกินแก้