
บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ("STA") ก่อตั้งขึ้นในปี 2530 ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ STA ได้ขยายธุรกิจให้เติบใหญ่จนก้าวมาเป็น ผู้ประกอบการในธุรกิจยางธรรมชาติอย่างครบวงจร (Fully Integrated Natural Rubber Company) โดยในธุรกิจต้นน้ำศรีตรังได้ลงทุนในสวนยางพาราขนาดใหญ่ ซึ่งในปัจจุบันมีพื้นที่สำหรับปลูกสวนยางพาราและพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ ประมาณ 47,000 ไร่ ใน 19 จังหวัดของประเทศไทย ในธุรกิจกลางน้ำ ซึ่ง STA ผลิตและจัดจำหน่ายมีผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติขั้นพื้นฐานทุกประเภทเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าทั่วโลก ได้แก่ ยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และน้ำยางข้น โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทฯ มีกำลังการผลิตกว่า 3.72 ล้านต้นต่อปี จากจำนวนโรงงานรวม 35 โรงงาน ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศผู้ผลิตยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดสองอันดับแรกของโลก ได้แก่ ประเทศไทย และประเทศอินโดนีเซีย ตลอดจนประเทศเมียนมาซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการขยายตัวของพื้นที่ปลูกยางธรรมชาติ และบริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินการผลิตที่โรงงานในประเทศโอวอรี่โคสต์ บริเวณทวีปแอฟริกา ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตยางอันดับสามของโลกตั้งแต่โตรมาส 2 ปี 2567 เป็นต้นมา
สำหรับธุรกิจปลายน้ำ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ("STGT") เป็นหนึ่งในบริษัทหลัก (Flagship Company) ของกลุ่มศรีตรัง ในการผลิตและจำหน่ายถุงมือยางธรรมชาติและถุงมือยางไนไตรส์ที่ใช้ในทางการแพทย์และทางอุตสาหกรรมให้แก่ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 175 ประเทศทั่วโลก มีสำนักงานทั้งในประเทศไทย จีน สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทฯ มีกำลังการผลิตติดตั้งของถุงมือยางทั้งสิ้นรวม 51,112 ล้านชิ้นต่อปี ซึ่งนับได้ว่า STGT เป็นผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและจัดเป็นผู้ผลิตถุงมือยางใน อันดับต้น ๆ ของโลก มีโรงงานที่ใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยตั้งอยู่ทางภาคใต้ของไทย ที่จังหวัดสงขลา สุราษฎร์ธานี ตรัง และชุมพร อีกทั้ง STA ยังได้ร่วมลงทุนกับบริษัทต่างชาติในการผลิตท่อโฮดรอลิกแรงดันสูง มีโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในการผลิตท่อไฮดรอลิกเพื่อใช้ในงานประเภทอุตสาหกรรมต่าง ๆ
นอกจากนี้ STA ได้มีบริษัทย่อยอีกหลายบริษัทเพื่อบริการสนับสนุนการดำเนินงานของธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัท ทั้งในด้านการวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม ด้านการขนส่ง เป็นต้น
ณ ปัจจุบัน STA เป็นบริษัทยางพาราบริษัทแรกและบริษัทเดียวในประเทศโทยที่ดำรงสถานะการจดทะเบียนหลักทรัพย์ทั้งในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (Primary Listing) และตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (Secondary Listing)